ทำความรู้จักกับระยะของโรคริดสีดวงแต่ละแบบ

ริดสีดวง คือโรคที่กวนใจหลายคน และเป็นโรคที่เป็นได้ทุกเพศทุกวัย หากทำพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงได้ โดยโรคชนิดนี้เกิดจากเส้นเลือกบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง ทำให้เห็นเป็นเหมือนก้อนเนื้อที่อยู่ตรงทวาร หากรู้ได้เร็วก็จะรักษาด้วย สมุนไพรแก้ริดสีดวง ได้ง่าย แต่ถ้าปล่อยเอาไว้นานเท่าไหร่ก็จะมีอาการเจ็บปวดและก้อนเนื้อมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น

สำหรับโรคริดสีดวงนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ เพื่อให้เราเข้าใจเกี่ยวกับระยะต่างๆ ของโรคริดสีดวง และรู้ว่าโรคนี้มีผลกระทบกับชีวิตอย่างไร เราจะมาดูรายละเอียดไปพร้อมกัน เผื่อใครที่ไม่อยากจะเจอกับปัญหาชนิดนี้ จะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตเสียใหม่

ระยะของริดสีดวง

ระยะที่ 1 เป็นระยะที่เส้นเลือดดำบริเวณทวารหนัก เริ่มมีอาการโป่งพอง อาจจะอยู่ด้านในหรือด้านนอกก็ได้ และอาการที่เห็นได้ชัดอีกอย่างก็คือ ขณะที่อุจจาระมักจะมีเลือดปนออกมาด้วย โดยเฉพาะหากใครที่ไม่ได้อุจจาระนานๆ และมีอาการท้องผูก เลือดก็จะออกมากว่าเดิม ยิ่งถ้าเป็นริดสีดวงภายใน เลือดก็จะออกมากขึ้นว่าเดิมด้วย

ระยะที่ 2 เป็นระยะที่ขนาดของเส้นเลือดที่พอง หรือว่าก้อนเนื้อมีขนาดที่โตขึ้นกว่าระยะแรก จนบางคนรู้สึกได้หรือสัมผัสได้ที่ตรงบริเวณรอบทวาร ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่อุจจาระ ก็จะสังเกตเห็นได้ชัดขึ้น โดยจะเห็นเป็นลักษณะก้อนเนื้อโผล่ออกมาให้เห็นด้วย และก้อนเนื้อจะหดเข้าไปเมื่อขับถ่ายเสร็จเรียบร้อย

ส่วนเลือดที่ออกก็จะออกเป็นบางครั้ง หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคท้องผูกอยู่ อาการถ่ายเป็นเลือดก็จะมาให้เห็นอยู่เหมือนเดิม

ระยะที่ 3 เป็นระยะที่หัวของริดสีดวงโผล่ออกมามากกว่าเดิม จนทำให้เวลาที่ทำอะไรหนักๆ อย่างเช่นการยกของหนัก จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต้องเกร็งลำตัวตลอดเวลา เพราะรู้สึกว่าเจ็บตรงที่ริดสีดวง ในเวลาขับถ่ายจะยิ่งมองเห็นหัวของริดสีดวงได้ชัดมากขึ้น หากไม่มีการใช้ สมุนไพรแก้ริดสีดวง ในการรักษาเลย อาการก็จะหนักและทรมานมากขึ้นไปอีก

ระยะที่ 4 เป็นระยะที่หัวของริดสีดวงโตเต็มที่ และมองเห็นอย่างชัดเจนแม้ว่าจะไม่ได้ขับถ่ายก็ตาม ยิ่งเป็นริดสีดวงภายนอกก็จะเห็นได้ชัด และจะไม่มีการหุบเข้าไปเหมือนกับริดสีดวงภายใน ในระยะนี้จะเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงที่สุด อาจจะมีปัญหาโรคแทรกซ้อนเข้ามาด้วย และมักจะมีเลือดออกเป็นระยะๆ แม้ว่าจะไม่ได้ขับถ่ายก็ตาม บางครั้งก็จะมีอาการคันตรงทวาร

ในเวลาที่อุจจาระ ก็มักจะมีเลือดปนออกมาด้วยเสมอ ในรายที่เป็นหนักๆ อาจจะอุจจาระเป็นเลือดออกมาทั้งหมดเลยก็ได้ ในระยะนี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายมาก เนื่องจากบาดแผลที่เกิดขึ้น และเชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆ ที่อยู่ในอุจจาระ จะทำกิจกรรมอะไรก็ลำบาก น้ำหนักก็จะลดด้วย

จะเห็นว่าโรคชนิดนี้ที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย หากปล่อยเอาไว้นานเข้าๆ ก็จะเป็นอันตรายกับเราได้เหมือนกัน ดังนั้นหากใครที่รู้ว่าตัวเองเป็น ก็ควรใช้ สมุนไพร แก้ ริดสีดวง รักษาตั้งแต่ที่รู้เลย ดีกว่าจะปล่อยเอาไว้ จะทำให้การรักษายาก และใช้เวลานานด้วย